การใช้กล้องเพื่อการควบคุมคุณภาพในสถานที่ปฏิบัติงาน! แนะนำประโยชน์และกรณีตัวอย่างของการใช้งาน

กระบวนการการควบคุมคุณภาพ เป็นกิจกรรมที่สำคัญสำหรับการคงไว้ซึ่งสินค้าหรือผลิตภัณฑ์และบริการให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ถูกกำหนด ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการในการตรวจสอบคุณภาพที่เข้มงวดภายในโรงงานและคลังสินค้า เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าลูกค้าจะได้รับความพึงพอใจและช่วยลดอัตราของจุดบกพร่องหรือข้อผิดพลาดลง

ซึ่งในปัจจุบันนี้ การใช้งานระบบกล้องเพื่อการใช้ในการควบคุมด้านคุณภาพนั้นกำลังได้รับความสนใจในเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของไลน์การผลิตและส่วนควบคุมศูนย์กลางของธุรกิจประเภทโลจิสติกส์ ระบบการตรวจสอบเฝ้าสังเกตที่มีการใช้กล้องที่มีประสิทธิภาพสูงนั้น จะช่วยให้ทางองค์กรได้รับประโยชน์อย่างมากมาย เช่น สามารถตรวจสอบพบสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่เกิดข้อบกพร่องเจอได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มแรก กระบวนการทำงานได้รับการปรับปรุงที่ดีขึ้น และทำให้การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลนั้นเป็นไปได้โดยอัตโนมัติ

ในส่วนของบทความบทนี้ จะอธิบายถึงรายละเอียดที่เกี่ยวกับประโยชน์ของการควบคุมคุณภาพด้วยการใช้กล้อง กรณีตัวอย่างของการใช้งานที่เกิดในแต่ละอุตสาหกรรม วิธีการเลือกกล้องที่เหมาะสม จุดที่ควรทราบเมื่อมีการนำระบบนี้ไปใช้งาน และเทคโนโลยีที่มีล่าสุด การนำการควบคุมคุณภาพด้วยการใช้กล้องมาปรับใช้ ถือเป็นกุญแจที่สำคัญในการปรับปรุงคุณภาพของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพของการทำงาน เพราะฉะนั้น เราจึงแนะนำให้ท่านอ่านบทความบทนี้เป็นอย่างยิ่ง

เหตุผลว่าทำไมถึงควรใช้กล้องเพื่อการควบคุมคุณภาพ และประโยชน์ของการใช้งานในรูปแบบนี้ คืออะไร

การใช้งานกล้องนั้นมีประโยชน์อย่างมากมายในด้านการควบคุมคุณภาพ ในที่นี้ เราจะอธิบายถึงประโยชน์หลัก 4 ประการของการใช้กล้องเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมคุณภาพ

การตรวจจับข้อผิดพลาดที่แม่นยำ

ระบบควบคุมคุณภาพโดยการใช้ข้อมูลภาพที่ได้จากกล้อง ด้วยความสามารถในการตรวจจับข้อบกพร่องเล็กๆน้อยๆอย่างแม่นยำสูงได้ด้วยการผสมผสานภาพความละเอียดสูงเข้ากับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของการประมวลผลของภาพนั้น จะช่วยทำให้สามารถระบุรอยขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ และความไม่เป็นระเบียบที่อาจถูกมองข้ามได้อย่างง่ายดายด้วยตาเปล่า
 
ซึ่งการตรวจจับข้อบกพร่องที่แม่นยำนี้ จะช่วยปรับปรุงการประกันคุณภาพ และลดความเสี่ยงของการขอคืนของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการร้องเรียนที่มาจากลูกค้าได้อย่างมาก นอกจากนี้ การตรวจจับข้อบกพร่องในระยะเริ่มต้นช่วยให้สามารถนำไปสู่การปรับปรุงกระบวนการผลิตได้ ซึ่งส่งเสริมให้ประสิทธิภาพของการผลิตโดยรวมเพิ่มขึ้น

การติดตามตรวจสอบกระบวนการปฏิบัติงานในแบบเรียลไทม์

การติดตามการปฏิบัติงานด้วยการใช้ภาพจากกล้องนั้นช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพและในเรื่องของความปลอดภัยในกระบวนการผลิตได้อย่างมาก เพราะการนำระบบกล้องมาใช้งานจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถบันทึกสภาพการณ์ในสายการผลิตและสถาณที่ปฏิบัติงานได้ทันที ช่วยให้สามารถระบุและตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวที่ไม่มีประสิทธิภาพและงานที่มีความเสี่ยงได้อย่างรวดเร็ว

แนวทางนี้มีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของการดำเนินงาน โดยทำให้กระบวนการผลิตราบรื่นยิ่งขึ้น และข้อมูลเรียลไทม์ที่ได้จะช่วยทำให้พาไปสู่แนวทางของการปรับปรุงและช่วยควบคุมคุณภาพและเพิ่มจำนวนของผลผลิตได้

การเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลอัตโนมัติด้วยการใช้ AI

ระบบการควบคุมคุณภาพที่ผสมผสานเอากล้องและปัญญาประดิษฐ์(AI)ทำงานด้วยกันนั้นมีบทบาทสำคัญในการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลโดยอัตโนมัติ และการปรับปรุงกระบวนการรับรองคุณภาพ การวิเคราะห์ข้อมูลวิดีโอแบบเรียลไทม์ทำให้สามารถเข้าใจคุณภาพของผลิตภัณฑ์และสถานะของสายการผลิตได้อย่างแม่นยำ ขจัดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานด้วยมือ

การทำงานอัตโนมัติของกระบวนการนี้ช่วยให้ได้ข้อมูลอย่างรวดเร็วและสนับสนุนการปรับปรุงในกระบวนการผลิตที่เป็นรูปแบบของระบบ  ซึ่งทำให้ปรับปรุงความแม่นยำของการควบคุมในด้านคุณภาพและมีส่วนช่วยในการลดต้นทุนตามลำดับ นำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพในด้านการผลิตอย่างยั่งยืนได้

ลดต้นทุนและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ

ด้วยการติดตั้งกล้อง ช่วยให้ผู้จัดการสามารถตรวจสอบสายการผลิตหรือคลังสินค้าได้จากทุกสถานที่และออกคำสั่งที่จำเป็นได้ ด้วยวิธีการนี้ ทำให้สามารถตรวจหาผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่มีข้อบกพร่องเจอได้อย่างรวดเร็วและกระบวนการปฏิบัติงานเกิดการปรับปรุงขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป ส่งผลให้งานทั้งหมดเกิดประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

การกำจัดสภาวะความจำเป็นที่จะต้องไปเยือนที่ไซต์งานโดยตรงออกไปนั้น ช่วยให้ลดเวลาการเดินทาง และสามารถตรวจสอบไซต์งานพร้อมกันหลายๆแห่งได้ ส่งผลอย่างดีขึ้นในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพ นอกจากนี้แล้ว กระบวนการตรวจสอบยังสามารถทำงานโดยอัตโนมัติได้ ด้วยการผสานรวมเทคโนโลยีของการวิเคราะห์ภาพและฟังก์ชันการตรวจจับอัตโนมัติ ซึ่งช่วยในเรื่องของการลดต้นทุนแรงงานลงได้อีกด้วย

กรณีการใช้งานที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมด้านต่างๆ

จากนี้ เราจะขอแนะนำตัวอย่างที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับการใช้งานกล้องที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ

กรณีการใช้งานที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการผลิต

การใช้กล้องในอุตสาหกรรมการผลิตช่วยส่งเสริมการปรับปรุงส่วนที่สำคัญ ในด้านการควบคุมคุณภาพและประสิทธิภาพของการผลิต ไม่เพียงแต่ผู้ใช้งานจะสามารถตรวจสอบภาพจากกล้องได้ในแบบเรียลไทม์เพื่อทำให้มั่นใจว่าสามารถควบคุมคุณภาพอย่างละเอียดถี่ถ้วนได้เพียงเท่านั้น แต่ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ก็ยังช่วยให้สามารถตรวจสอบข้อมูลภาพที่ถูกบันทึกเอาไว้ เพื่อการระบุหาสาเหตุและออกมาตรการดำเนินการตอบสนองเพื่อการปรับปรุงสถานการณ์นั้นๆได้อย่างทันทีได้อีกด้วย

เช่นเดียวกันกับในด้านประสิทธิภาพของการผลิต การตรวจพบการปฏิบัติงานที่ไม่ได้เป็นไปตามคู่มือหรืองานสูญเสีย(Waste)จากภาพข้อมูลวิดีโอที่ถูกบันทึก จะช่วยนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพได้

ใช้เพื่อการวิเคราะห์ และรับรองคุณภาพ

กฎของการควบคุมคุณภาพนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าพนักงานได้ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสุขอนามัยแล้ว ตัวอย่างเช่น ในบริษัทผู้ผลิตอาหารนั้น มาตรฐานที่ว่านั้นอาจครอบคลุมและรวมถึง “การล้างมือหลังจากใช้ห้องน้ำ” “การใช้ชุดทำงานในห้องปลอดเชื้ออย่างถูกต้อง” และ “การรักษาและคงไว้ซึ่งความสะอาด ก่อนที่จะจับและสัมผัสอาหาร”

บริษัท Nissei Corporation ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตไอศกรีมซอฟต์ครีมรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ได้ใช้บริการระบบกล้องเพื่อเพิ่มการป้องกันในส่วนของวัตถุอาหารและการจัดการด้านคุณภาพให้มีพลังประสิทธิภาพที่มากยิ่งขึ้นในส่วนของสายการผลิต

กรณีการใช้งานที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมด้านคลังสินค้าและโลจิสติกส์

ด้วยการใช้ระบบกล้อง จะช่วยให้การจัดการด้านโลจิสติกส์และคลังสินค้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยให้สามารถติดตามการกระจายของสินค้าและรับรองความถูกต้องของสินค้าที่สต๊อคอยู่ในคลังได้ และการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ยังช่วยป้องกันสินค้าคงคลังเกิดการเกินหรือขาดจำนวน รวมไปถึงข้อผิดพลาดในการจัดส่ง

ใช้เพื่อการติดตามการไหลเวียนของสินค้า

การผสานรวมระหว่างกล้องและ AI จะทำให้สามารถตรวจสอบการขนส่งทั้งขาเข้าและขาออกรวมถึงกระบวนการจัดส่ง ซึ่งช่วยทำให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ได้อย่างมาก และระบบตรวจจับยานพาหนะที่ใช้ AI จะช่วยให้สามารถตรวจจับความแออัดหนาแน่นของยานพาหนะและเวลาในการรอได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยลดเวลาที่ต้องสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ได้

ใช้เพื่อจัดการคลังสต๊อกสินค้าแบบอัตโนมัติ

ระบบการจัดการสินค้าคงคลังที่ใช้ระบบกล้องและ AIนั้น จะช่วยแก้ปัญหาการจัดการสินค้าคงคลังที่เกิดจากปัจจัยในด้านความหลากหลายของตัวผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งถึงแม้จะมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์แบบใหม่เข้าไป แต่ด้วยการนำ AI มาใช้ จะช่วยให้การตอบสนองมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นผ่านการอิงจากข้อมูลเก่าๆที่เคยถูกบันทึกไว้ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์ได้อย่างมาก
ที่ออฟฟิศ Chiba Kita ของบริษัท Sagawa Global Logistics Co., Ltd. ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ 3PL(โลจิสติกส์บุคคลที่สาม/Third Party Logistics) ได้เชื่อมโยงระบบจัดการคลังสินค้า (WMS) เข้ากับระบบกล้อง โดยการเชื่อมโยงหมายเลขคำสั่งซื้อเข้ากับข้อมูลภาพถ่ายของงานตรวจสอบที่มาจากหน้าจอของเมนูการจัดการบนระบบการจัดการคลังสินค้า (WMS) ซึ่งมีผลช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับงานตรวจสอบได้

ใช้เพื่อเป็นแอปพลิเคชันสำหรับการขายปลีก

การใช้กล้องและ AI ในอุตสาหกรรมค้าปลีกสามารถช่วยในการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า ปรับปรุงความแม่นยำในการจัดการสินค้าคงคลัง และปรับปรุงการนับสต๊อกสินค้า ซึ่งเทคโนโลยีนี้ จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ในแบบเรียลไทม์ นำมาซึ่งการเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า และช่วยปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจเพื่อการเพิ่มยอดขายได้

ใช้เพื่อการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า

การวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าโดยการใช้กล้องในร้านค้านั้น ถือเป็นวิธีที่สำคัญในการปรับปรุงความแม่นยำทางการตลาดขององค์กร เพื่อช่วยให้เราเข้าใจว่า ลูกค้าสนใจผลิตภัณฑ์ใด หรือผลิตภัณฑ์ใดที่พวกเขาไม่ได้ซื้อ และพวกเขามีการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์แต่ละแบบอย่างไร

ในประเทศญี่ปุ่นนั้น บริษัทชื่อว่า Moleskine Japan Co., Ltd. ที่เป็นบริษัทในเครือของบริษัท Moleskine ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสมุดบันทึกและสมุดแพลนเนอร์ ได้มีการนำกล้อง AIมาใช้กับร้านที่สาขาของจังหวัดโยโกฮาม่า โดยอิงจากผลการวัดปริมาณการสัญจรหน้าร้านและการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าที่เข้ามาภายในร้าน ซึ่งบริษัทยังคงกำลังใช้ข้อมูลเพื่อการปรับแต่งโครงสร้างภายในร้านและปรับปรุงการบริการลูกค้ามาจนถึงตอนนี้

ใช้เพื่อการปรับปรุงงานตรวจสอบและการนับสต๊อกสินค้า

การจัดการสินค้าคงคลังด้วยการใช้กล้อง AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าในอุตสาหกรรมการค้าปลีกขึ้นได้อย่างมาก หากเราสามารถตรวจจับหรือค้นหาสินค้าที่อยู่ในคงคลังของผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นและการจดจำพื้นหลังโดยใช้การเรียนรู้ของ AIได้  ก็จะช่วยให้สามารถตรวจสอบสินค้าที่มีอยู่ในคงคลังและตรวจนับสต๊อกสินค้าได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยทำให้เกิดการลดต้นทุนลงได้อีกด้วย

กรณีการใช้งานในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง

การใช้งานกล้องในอุตสาหกรรมการก่อสร้างนั้นมีบทบาทสำคัญในการจัดการความคืบหน้าของโครงการไซต์งานก่อสร้างได้จากระยะไกล ทั้งในด้านงานตรวจสอบความปลอดภัยและงานตรวจสอบภายในไซต์งานก่อสร้าง ซึ่งการสตรีมวิดีโอในแบบเรียลไทม์นั้นจะช่วยให้เราสามารถตรวจสอบสถานการณ์ในสถานที่การปฏิบัติงานที่เกิดขึ้นได้จากระยะไกล ซึ่งช่วยในการปรับปรุงคุณภาพและด้านความปลอดภัยได้โดยตรง

ใช้เพื่อการตรวจสอบการก่อสร้างในไซต์งานจากระยะไกล

การพัฒนาเทคโนโลยีอุปกรณ์กล้อง กำลังนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ในด้านการจัดการสถานที่ทำงานและการรับรองคุณภาพของอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ดังเช่นบริษัท Obayashi ซึ่งได้มีการนำกล้องคลาวด์แบบสวมใส่ ที่ชื่อรุ่น”Safie Pocket Series”มาใช้งาน เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล(DX Transformation) กับงานสถานที่ก่อสร้างที่ตั้งอยู่ในเมืองทามานะ จังหวัดคุมาโมโตะ โดยเทคโนโลยีนี้ได้ถูกนำมาใช้เพื่องานซ่อมบำรุงสะพาน เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า งานในโครงการนี้จะดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ใช้เพื่อการจัดการด้านความปลอดภัยในการปฏิบัติงานที่หน้างาน

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการด้านความปลอดภัยภายในสถานที่ก่อสร้าง จึงมีการใช้งานกล้องเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน และเทคโนโลยีกล้องก็ได้กลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการจัดการด้านความปลอดภัยทั้งในสถานที่งานก่อสร้างและกับสายการผลิต

องค์กรที่ดำเนินธุรกิจเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ๆ ที่เป็นผู้นำในด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ยกตัวอย่างเช่น บริษัท Shimizu Corporation และ Takenaka Corporation ซึ่งกำลังใช้งานกล้องคลาวด์ เพื่อปกป้องความปลอดภัยของคนงานหรือผู้ที่ปฏิบัติงาน และเพื่อช่วยในด้านการปรับปรุงประสิทธิภาพของการทำงานด้วย

เราควรเลือกกล้องอย่างไร เพื่อให้เหมาะสำหรับงานควบคุมคุณภาพ

การเลือกกล้องที่เหมาะสมนั้นคือสิ่งที่สำคัญต่อการประสบความสำเร็จ สำหรับงานควบคุมคุณภาพ

ความละเอียดและคุณภาพของภาพ

กล้องที่เหมาะสำหรับงานควบคุมคุณภาพนั้นจะต้องมีความละเอียดสูงและมีคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม เพื่อการแสดงรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจนและช่วยให้สามารถตรวจจับข้อบกพร่องและความผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งปัจจัยนี้จะช่วยให้เกิดการปรับปรุงความแม่นยำสำหรับงานตรวจสอบได้อย่างมาก

ช่วยให้เราสามารถระบุความแตกต่างของสีหรือแม้แต่จุดบกพร่องเล็กๆน้อยๆบนพื้นผิวได้อย่างชัดเจน มีผลทำให้ช่วยสามารถตรวจสอบงานได้ตามมาตรฐานของคุณภาพที่มีความเข้มงวดได้ และภาพที่มีคุณภาพสูงยังช่วยปรับปรุงความแม่นยำสำหรับด้านเทคนิคในการวิเคราะห์ภาพ ก่อให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพของการควบคุมคุณภาพไปโดยอัตโนมัติได้อีกด้วย

ระยะการถ่ายภาพและฟังก์ชั่นการซูม

เมื่อมองหากล้องที่เหมาะกับงานควบคุมคุณภาพ เราขอแนะนำรุ่นที่มีฟังก์ชันการซูมที่ครอบคลุมบริเวณพื้นที่กว้างที่ทำให้สามารถตรวจสอบได้แม้แต่กับรายละเอียดที่เล็กที่สุด เป็นกล้องที่มีฟังก์ชันการซูมรูปแบบไฟฟ้า เป็นรุ่นที่สามารถถ่ายภาพพื้นที่กว้างได้ 180 องศาทั้งด้านซ้ายและขวา และ เป็นกล้อง 360 องศาที่มีฟังก์ชันการแก้ไขภาพ รวมไปถึงมีฟังก์ชันที่รองรับมากมายที่ตอบสนองความต้องการในงานควบคุมคุณภาพได้

ซึ่งฟังก์ชันต่างๆเหล่านี้ จะช่วยทำให้สามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การตรวจจับข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงด้านการตรวจสอบคุณภาพต่างๆได้อย่างครอบคลุม

ความสามารถในการขยายและต่อยอดได้ เช่น การรวมระบบเข้าด้วยกัน

เช่นตามตัวอย่างกรณีการใช้งานก่อนหน้าด้านบน ที่มาจากบริษัท Sagawa Global โลจิสติกส์ การเลือกกล้องที่สามารถทำการบูรณาการเข้ากับระบบอื่นทางธุรกิจได้ เช่น WMS ระบบการจัดการการก่อสร้าง และระบบ POS ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุประสิทธิภาพทั่วทั้งระบบของธุรกิจ

โดยการเลือกระบบกล้องที่มีกลไกและฟังก์ชันที่ช่วยในการบูรณาการหรือผสมผสานระบบได้ เช่น API (Application Programming Interface = การเชื่อมต่อโปรแกรมประยุกต์ ) จะช่วยเพิ่มความสามารถในการต่อยอดได้หลังนำเครื่องมือเหล่านี้ไปปฏิบัติแล้ว

แหล่งพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของภาพที่ถ่าย

พื้นที่จัดเก็บข้อมูลของภาพที่ถูกถ่ายนั้น จะส่งผลโดยตรงในด้านความปลอดภัยในการควบคุมคุณภาพและประสิทธิภาพของการทำงาน ข้อดีของการจัดเก็บข้อมูลลงบนระบบคลาวด์นั้นคือ ทำให้การใช้งานนั้นง่ายและมีความยืดหยุ่นต่อการขยายตัวและการต่อยอดได้ แต่ถึงกระนั้น เรื่องความปลอดภัยและการปกป้องความเป็นส่วนตัวนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการใช้งาน แต่ในทางกลับกันนั้น การจัดเก็บข้อมูลลงในเครื่องเองก็มีความปลอดภัยทางด้านกายภาพสูง แต่สำหรับการแบ่งปันและการสำรองข้อมูลนั้นอาจต้องใช้เวลานาน

เมื่อต้องเลือกตำแหน่งของการจัดเก็บข้อมูล สิ่งที่สำคัญคือ จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่าเราจะเข้าถึงข้อมูลนั้นๆบ่อยเพียงใด และระดับความปลอดภัยที่ต้องการ งบประมาณของเรา รวมไปถึงข้อกำหนดทางกฎหมายหรือข้อบังคับต่างๆที่มี

ประเด็นที่ควรตระหนักเมื่อจะทำการติดตั้งกล้อง

ต่อไปนี้คือประเด็นบางประการ ที่เราควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษเมื่อจะทำการติดตั้งกล้อง

พิจารณาถึงตำแหน่งที่จะมีการติดตั้งกล้อง

ในการตัดสินใจว่าจะทำการติดตั้งกล้องเอาไว้ที่บริเวณจุดใดนั้นจะส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อระยะและคุณภาพของภาพที่กล้องจะถ่ายได้ เพราะฉะนั้นข้อนี้ จึงมีบทบาทที่สำคัญมากในการตัดสินใจเพื่อเลือกอุปกรณ์สักชนิด ความแตกต่างของสภาวะระหว่างในร่มและกลางแจ้ง รวมถึงสภาพแวดล้อมต่างๆ เป็นปัจจัยของคุณสมบัติของกล้องที่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องนำมาพิจารณา 

ตัวอย่างเช่น กล้องวงจรปิดรักษาความปลอดภัยภายในอาคาร อาจเหมาะสำหรับสำนักงานหรือร้านค้า แต่กล้องวงจรปิดรักษาความปลอดภัยแบบกลางแจ้งหรือภายนอกอาคาร อาจเหมาะสมกว่าในพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับฝุ่นหรือมีสิ่งสกปรกแวดล้อมอยู่มาก

สำหรับกล้องแบบสวมใส่ได้นั้น แนะนำว่าจะเหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพวิดีโอในสภาพแวดล้อมแบบเฉพาะเจาะจง หรือเมื่อจำเป็นต้องถ่ายภาพแบบไดนามิก กล้องเหล่านี้จะช่วยทำให้เราถ่ายภาพแบบแฮนด์ฟรีได้ในขณะที่กำลังเคลื่อนไหวหรือปฏิบัติงานอยู่ ดังนั้นจึงสามารถแชร์และแบ่งปันสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของสถานที่นั้นๆได้

ด้วยแนวทางเหล่านี้ การเลือกกล้องให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่จะติดตั้ง จะช่วยให้สามารถเข้าถึงการตรวจสอบที่มีความแม่นยำสูง และเหมาะกับวัตถุประสงค์ของการใช้งานที่เรามีได้

การรับรองความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

เมื่อจะติดตั้งกล้อง เรื่องของการปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด ความเป็นส่วนตัวของผู้ที่ปฏิบัติงานในสถานที่ทำงานจะต้องได้รับการดูแลอย่างดีตามข้อบังคับการคุ้มครองข้อมูลและกฎหมายความเป็นส่วนตัว

และเพื่อจัดเก็บข้อมูลวิดีโออย่างปลอดภัยและเพื่อการใช้งานอย่างเหมาะสม จำเป็นจะต้องมีมาตรการการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันการบุกรุกจากภายนอก รวมถึงการเข้ารหัสเพื่อการปกป้องข้อมูลและการควบคุมการเข้าถึงที่เข้มงวด

ฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมาะต่อสภาพแวดล้อมในการถ่ายภาพ

คุณภาพของภาพที่ได้นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมเป็นอย่างมาก ฉะนั้น ต้องไม่ลืมที่จะเช็คฟังก์ชั่นที่รองรับภายในตัวกล้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราวางแผนที่จะใช้งานกล้องในเวลากลางคืน

นอกจากการเลือกติดตั้งกล้องที่มีไฟส่องสว่างหรือไฟเซ็นเซอร์ในตัวแล้ว การถ่ายภาพในที่มืดยังสามารถทำได้ดีด้วยการใช้กล้องที่มีความไวต่อแสงในระดับสูง หรือกล้องอินฟราเรดที่มีความสามารถในการมองเห็นในเวลากลางคืนได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย

กล้องที่มีความไวต่อแสงในระดับสูง และกล้องอินฟราเรดนั้นจะมีราคาแพงน้อยกว่าหากเอามาเทียบกับราคาเมื่อนำอุปกรณ์ไฟภายนอกมาติดตั้งเพิ่ม พร้อมทั้งให้คุณภาพของภาพที่สูงด้วย เนื่องจากเราสามารถใช้มันถ่ายภาพได้โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของมุมมองหรือความส่องสว่างของแสง

หากวางแพลนที่จะมีการถ่ายภาพในที่มืด ขอแนะนำว่าให้พิจารณาเลือกใช้กล้องที่มีความไวต่อแสงในระดับสูงหรือกล้องอินฟราเรด

เทคโนโลยีล่าสุด ของกล้องเพื่อการควบคุมคุณภาพ

ในส่วนนี้ เราจะแนะนำถึงแนวโน้มล่าสุดบางส่วน เกี่ยวกับเทคโนโลยีของกล้องที่ใช้สำหรับงานควบคุมคุณภาพ มาดูรายละเอียดกันว่า เทคโนโลยีแต่ละอย่าง สามารถปรับปรุงกระบวนการในงานควบคุมคุณภาพของคุณได้อย่างไรบ้าง

การใช้งานกล้อง AI

กล้องที่ใช้งาน AIได้ กำลังเกิดการปฏิวัติในด้านของการควบคุมคุณภาพ ด้วยการรวบรวมข้อมูลจากงานตรวจสอบและการเรียนรู้ซ้ำๆ  กล้องเหล่านี้ สามารถเปิดเผยถึงสาเหตุของจุดบกพร่อง เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิต และให้การคาดการณ์คุณภาพของผลิตภัณฑ์สินค้าได้

ด้วยความก้าวหน้านี้จะช่วยลดจุดบกพร่อง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์สินค้าที่เกิดในไลน์การผลิต และการนำกล้อง AI มาใช้นั้นจะช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนวิธีการในการควบคุมคุณภาพและช่วยเพิ่มมูลค่าใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์สินค้าที่มีได้อย่างแท้จริง

การใช้กล้องสวมใส่

กล้องสวมใส่ได้ คือ กล้องขนาดเล็ก ที่สามารถแขวนหรือสวมใส่บนร่างกายได้ โดยให้ผู้ที่ปฏิบัติงานทำการสวมกล้องสวมใส่เอาไว้ในสถานที่ปฏิบัติงานเพื่อที่จะสามารถบันทึกกระบวนการทำงานในด่านหน้าและเพื่อการควบคุมคุณภาพในรูปแบบเรียลไทม์ ซึ่งกล้องสวมใส่ได้นั้น มีด้วยกันอยู่หลายประเภท รวมไปถึงประเภทคาดหัว ที่เราสามารถใช้คาดหรือติดไว้ที่ศีรษะ และแบบติดและแขวนตรงบริเวณหน้าอก ซึ่งช่วยให้เราถ่ายภาพแบบแฮนด์ฟรี ในขณะที่กำลังปฏิบัติงานอยู่ได้

ซึ่งคุณสมบัตินี้จะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์กระบวนการการทำงานจากมุมมองของผู้ปฏิบัติงาน ทำให้ช่วยค้นพบปัญหาและแนวทางวิธีการแก้ไขได้โดยตรงอย่างง่ายดายมากขึ้น นอกจากนี้แล้ว ภาพที่ถูกถ่ายได้ยังสามารถนำมาใช้เป็นสื่อในการฝึกอบรมและเรียนรู้ได้ อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อการสังเกตการณ์ตรวจสอบและการให้การสนับสนุนจากระยะไกลได้ด้วย ส่งผลให้การทำงานนั้นเกิดความเป็นมาตรฐาน และเกิดการปรับปรุงด้านคุณภาพได้ดียิ่งขึ้น

การใช้กล้อง PTZ (การแพน-การเอียง-การซูม)

กล้อง PTZ เป็นกล้องประสิทธิภาพสูง ที่สามารถควบคุมมุมมองจากระยะไกลได้ 3 วิธี ได้แก่ การแพน (การเคลื่อนที่ในแนวนอน) การเอียง (การเคลื่อนที่ในแนวตั้ง) และการซูม (การขยาย/ย่อ) ซึ่งในส่วนของงานควบคุมคุณภาพนั้น การทำงานหรือสมรรถนะที่ยืดหยุ่นของกล้องประเภทนี้ สามารถใช้ในการตรวจสอบชิ้นส่วนหรือบริเวณเฉพาะเจาะจงของอุปกรณ์หรือวัตถุที่ผลิตในสายการผลิตได้อย่างละเอียด ทำให้สามารถตอบสนองอย่างรวดเร็วได้ในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้น

กล้อง PTZ นั้น มีความสามารถในการติดตามวัตถุโดยอัตโนมัติ ดังนั้น เมื่อตรวจพบวัตถุหรือสิ่งผิดปกติ วัตถุหรือสิ่งนั้นๆจะถูกติดตามโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้สามารถทำการตรวจสอบในส่วนของรายละเอียดได้

การใช้กล้อง 360 องศา

กล้อง 360 องศา คือ กล้องที่สามารถจับภาพและวิดีโอ 360 องศาของสภาพแวดล้อมนั้นๆได้ทั้งหมดในคราวเดียว เนื่องจากกล้อง 360 องศานั้นสามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมทั้งหมดของโรงงานหรือคลังสินค้า จึงช่วยกำจัดจุดบอด และทำให้การจัดการในด้านความปลอดภัยและการตรวจสอบคุณภาพนั้นเกิดความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

นอกเหนือไปจากนั้น การใช้กล้องเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้นก็ช่วยให้สามารถจับภาพในพื้นที่กว้างๆได้ ดังนั้นแล้ว จึงช่วยส่งผลในเรื่องของการลดต้นทุนในการติดตั้งลงได้ ฉะนั้น เทคโนโลยีนี้จึงมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการควบคุมคุณภาพภายในโรงงานขนาดใหญ่ หรือสถานที่ที่มีสายการผลิตที่มีความซับซ้อน

การผสมผสานกันระหว่างIoT และกล้องเพื่องานควบคุมคุณภาพ

การผสมผสานกันของกล้อง AI เข้ากับเทคโนโลยี IoT นั้น ทำให้การควบคุมคุณภาพและการจัดการในด้านการผลิตนั้นมีความก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก โดยการผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยีเหล่านี้ จะช่วยลดจำนวนของผลิตภัณฑ์ที่มีข้อบกพร่องลงได้ และช่วยทำให้สามารถพบเห็นผลิตภัณฑ์สินค้าที่เกิดจุดบกพร่องและระบุหาสาเหตุที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น Big Data ( ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ ที่มีปริมาณมหาศาล หลากหลายรูปแบบ) และCloud Computing (บริการเช่าใช้ระบบคอมพิวเตอร์และทรัพยากรผ่านออนไลน์ โดยสามารถปรับสเป็คต่างๆตามการใช้งานจริงขององค์กรได้) เพื่อรวบรวมข้อมูลของการควบคุมคุณภาพ ซึ่งAIนั้นทำงานเกี่ยวกับ”การปรับปรุงกระบวนการในโรงงาน”ได้ เพื่อทำให้กระบวนการผลิตทั้งหมดเกิดประสิทธิภาพและความราบรื่นที่ดีมากยิ่งขึ้น

พิจารณาการติดตั้งกล้อง เพื่อใช้สำหรับการควบคุมคุณภาพ

การใช้กล้องในการควบคุมคุณภาพนั้น จะช่วยปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์สินค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต กล้องที่มีประสิทธิภาพสูง จะช่วยให้สามารถระบุข้อบกพร่องเล็กๆน้อยๆที่เกิดได้โดยทันทีในงานตรวจสอบ รวมไปถึงช่วยในการรวบรวมข้อมูลที่มีได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งถือว่าเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในภาคอุตสาหกรรมการผลิต

นอกจากนี้แล้ว การผสานระบบโดยรวมการวิเคราะห์ผ่าน AI และ IoT ยังคาดว่าจะช่วยปรับปรุงความแม่นยำของการควบคุมคุณภาพได้อีกด้วย ซึ่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเหล่านี้ จะช่วยปรับปรุงกระบวนการในการรับรองคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้นได้อย่างแท้จริง ซึ่งจะส่งผลช่วยให้ประสิทธิภาพในการผลิตดีขึ้นและลดต้นทุนลงได้ในที่สุด
ด้วยเหตุนี้ เราจึงแนะนำให้องค์กรต่างๆ นำระบบการควบคุมคุณภาพด้วยกล้องมาใช้งานนั่นเอง