กล้อง AI: ทำอะไรได้บ้างและมีวิธีการใช้งานอย่างไร

ปัจจุบัน มีการนำกล้อง AI เข้ามาใช้งานในธุรกิจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อจุดประสงค์ต่างๆ เช่น เพื่อการบริหารจัดการ ณ จุดทางเข้าและทางออก รวมไปถึงการวิเคราะห์ในด้านอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ด้วยฟังก์ชันที่มีมากมาย หลายคนอาจสงสัยว่า “แท้จริงแล้ว กล้อง AI ทำอะไรได้บ้าง” ซึ่งในบทความนี้ เราจะอธิบายว่ากล้อง AI สามารถทำอะไรได้บ้าง ในลักษณะที่เข้าใจได้ง่าย รวมไปถึงข้อดีและข้อเสียที่มีของกล้องเหล่านี้

กล้อง AI คืออะไร?

กล้อง AI คือ กล้องที่ติดตั้งระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งแตกต่างจากกล้องวงจรปิดและกล้องเครือข่ายทั่วไป ตรงที่มีความสามารถใน การวิเคราะห์ภาพขั้นสูงได้ และมีฟังก์ชันที่ใช้ AI ที่สามารถระบุสถานการณ์ได้โดยอัตโนมัติได้ เช่น การตรวจจับบุคคลและวัตถุ การจดจำระบุใบหน้า และการตรวจจับการบุกรุกในพื้นที่เฉพาะที่กำหนดไว้

ประเภทของกล้อง AI

กล้อง AI สามารถแบ่งออกได้กว้างๆเป็น 2 ประเภทหลัก คือ “AI บนคลาวด์”และ“AI แบบเอจ” ซึ่งแต่ละประเภทก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

AI บนคลาวด์

AI แบบคลาวด์ เป็นโมเดลที่ส่งข้อมูลวิดีโอที่บันทึกโดยกล้อง และวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวโดยใช้ AI บนระบบคลาวด์ เนื่องจากสามารถ เชื่อมโยงการวิเคราะห์ขั้นสูงกับข้อมูลขนาดใหญ่ได้ จึงสามารถใช้เพื่อการนับจำนวนผู้เยี่ยมชม และระบุตัวตนของผู้สัญจรที่ผ่านไปมาในลักษณะของแต่ละบุคคลได้ด้วย

ข้อดีคือ สามารถจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้ จึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์สำหรับการใช้งานข้อมูลได้ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ข้อเสียคือ ต้องใช้เวลาในการถ่ายโอนข้อมูลนานกว่า เมื่อเทียบกับการใช้ AI แบบเอดจ์ จึงไม่เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่ต้องมีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว เช่น การขับขี่อัตโนมัติ

AI แบบเอดจ์

AI แบบเอดจ์ เป็นรุ่นที่ติดตั้ง AI ไว้บนตัวกล้องโดยตรง และสามารถวิเคราะห์ในแบบเรียลไทม์(ทันที)ได้ในระดับสูง เนื่องจากการถ่ายโอนข้อมูลที่มีขนาดเล็ก จึงเหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่ต้องการความรวดเร็ว เช่น การวิเคราะห์วิดีโอในการขับขี่แบบอัตโนมัติของรถยนต์ และงานตรวจสอบในสายการผลิตของโรงงาน

ข้อดีของการมีการติดตั้ง AI อยู่ในตัวอุปกรณ์กล้องเลย คือสามารถระบุและตัดสินภาพตามสถานการณ์ในสถานที่ได้ทันที แต่ในทางกลับกัน ข้อเสียคือสามารถจัดเก็บข้อมูลได้น้อยกว่า AI บนคลาวด์ ทำให้ไม่เหมาะสำหรับการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลรูปภาพที่มีจำนวนมาก

กล้อง AI สามารถทำอะไรได้บ้าง

กล้อง AI ใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์ภาพเพื่อทำให้สามารถตรวจจับ จดจำ และการตัดสินต่างๆได้หลายรูปแบบ รวมไปถึงบุคคลและวัตถุ การจดจำรูปแบบ และการตรวจจับพื้นที่

การตรวจจับบุคคลและวัตถุอัตโนมัติ (การตรวจจับวัตถุ การตรวจจับบุคคล การตรวจจับใบหน้า)

ระบบสามารถระบุตัวบุคคลที่จับภาพได้ภายในวิดีโอโดยอัตโนมัติ เช่น ตัวบุคคล วัตถุ และลักษณะใบหน้า ตัวอย่างเช่น ระบบสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างบุคคลต้องสงสัยที่เข้ามาในลานจอดรถในเวลากลางคืน กับสัตว์ได้ เข้าใจสถานะการแสดงสินค้าภายในร้านค้า และใช้ระบบจดจำใบหน้าที่ทางเข้าของสำนักงาน ทำให้สามารถระบุตัวบุคคลหรือวัตถุได้ราวกับว่าถูกมองเห็นด้วยสายตาของมนุษย์เอง

AI แบบเอดจ์ ยังมีส่วนช่วยในการทำงานสำหรับการปลดล็อคโดยใช้การจดจำใบหน้าที่ติดตั้งอยู่บนสมาร์ทโฟนอีกด้วย

การจัดหมวดหมู่ข้อมูลภาพโดยอัตโนมัติ (การจดจำรูปแบบ/การตรวจจับท่าทาง)

การใช้การเรียนรู้รูปแบบเฉพาะ โดยการใช้การเรียนรู้ของอุปกรณ์ ทำให้ระบบสามารถระบุพฤติกรรมที่น่าสงสัย ความแตกต่างของท่าทาง การเคลื่อนไหวที่โดดเด่นอื่นๆ จากภาพวิดีโอได้โดยอัตโนมัติ เช่น ระบบสามารถระบุสถานการณ์ที่คาดการณ์แนวโน้มได้ว่า อาจจะเกิดอาชญากรรมหรืออุบัติเหตุได้โดยอัตโนมัติ เช่น พฤติกรรมที่บ่งชี้ถึงลักษณะของการลักขโมยของภายในร้าน หรือ การตรวจับเมื่อทารกพลิกตัวคว่ำหน้า

การจดจำต่อพื้นที่ที่กำหนดค่าไว้ (การตรวจจับพื้นที่)

ระบบสามารถวัดจำนวนผู้คนในพื้นที่ที่กำหนดและระยะเวลาที่พวกเข้าเข้าไปใช้ในพื้นที่นั้นๆได้ ตัวอย่างเช่น สามารถระบุข้อมูลที่แบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ได้ เช่น การตรวจจับความแออัดหรือฝูงชนที่ด้านหน้าเครื่องคิดเงินในร้านค้าปลีก หรือ การวัดระยะเวลาที่ผู้คนได้ใช้ไปกับชั้นวางแสดงสินค้าในแต่ละชั้น นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจจับบุคคลต้องสงสัยที่เข้าไปในพื้นที่ที่กำหนดห้ามเข้าได้อีกด้วย

การจดจำอักขระและบาร์โค้ด (การตรวจจับอักขระ/การตรวจจับบาร์โค้ด)

ระบบสามารถจดจำข้อความและบาร์โค้ดในรูปภาพได้โดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น กล้องAIสามารถอ่านบาร์โค้ดของชิ้นส่วนงานบนสายการผลิตได้อย่างรวดเร็ว การระบุป้ายทะเบียนรถที่จอดอยู่ในลานจอดรถ ซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้เวลามหาศาล หากการดำเนินการเหล่านั้นด้วยตนเอง

อีกทั้ง การจดจำอักขระและการจดจำบาร์โค้ดบนสมาร์ทโฟนนั้น ก็เป็นฟังก์ชั่นพื้นฐานของAI บนคลาวด์ หรือ AI แบบเอดจ์อีกด้วย

ข้อดีของกล้อง AI

การนำกล้อง AI มาใช้ มีประโยชน์มากมายหลายประการ เช่น “ลดภาระงานของพนักงาน” “เพิ่มความปลอดภัยที่เข้มแข็งขึ้น” “การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยความเร็วสูง” และ “การปฏิบัติการอื่นๆในเชิงวิเคราะห์”

การลดภาระงานของพนักงาน

เนื่องจากกล้อง AI สามารถตรวจจับและจดจำวัตถุได้โดยอัตโนมัติ ทำช่วยลดภาระงานของมนุษย์ได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น เราสามารถที่จะมอบหมายให้ AI ทำงานแทน กับภาระงานบางอย่างที่ต้องใช้การตรวจสอบด้วยภาพจากสายตา เช่น การตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ในโรงงาน และการตรวจจับบุคคลภายนอกที่ในเวลากลางคืนของสถานที่พักอาศัย

สิ่งเหล่านี้จะช่วยลดภาระงานของพนักงาน ทำให้พวกเขาสามารถมุ่งเน้นความสนใจไปที่งานที่มีมูลค่าที่สูงกว่าได้ และปรับปรุงประสิทธิภาพต่อการดำเนินงานเพิ่มมากขึ้นได้

เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น

การวิเคราะห์ภาพขั้นสูงโดยใช้กล้อง AI จะช่วยให้สามารถตรวจจับปัจจัยเสี่ยง ที่สายตามนุษย์อาจมองข้าม เช่น การตรวจจับการบุกรุกในพื้นที่เฉพาะ และสัญญาณของท่าทีการขโมยของที่เกิดภายในร้านค้า นอกจากนี้ เมื่อใช้ระบบร่วมกันกับฟังก์ชันการจดจำเสียง ก็จะยิ่งช่วยในการตรวจจับเสียงที่น่าสงสัย เช่น เสียงกระจกแตกหรือเสียงเหยียบบนกรวดได้

ด้วยการนำกล้อง AI มาใช้จะทำสามารถใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้นได้

การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรวดเร็ว

กล้อง AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลภาพจำนวนมากได้เร็วกว่าสายตามนุษย์เป็นอย่างมาก และสามารถจดจำข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว เช่น เมื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่มีข้อบกพร่องบนสายการผลิต หรือการตรวจจับสัตว์ที่กระโดดออกมาบนถนนในการขับขี่แบบอัตโนมัติ

การสะสมและการวิเคราะห์ข้อมูล

ด้วยการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมได้โดยกล้อง AI จึงสามารถนำไปใช้ในการปรับปรุงการตลาดและธุรกิจได้ ตัวอย่างเช่น สามารถใช้ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการสัญจรหน้าร้านอันเนื่องมาจากสภาพอากาศ หรือระยะเวลาที่ลูกค้าใช้ของพื้นที่การทำการขาย เพื่อใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรพนักงานและปรับปรุงรูปแบบเค้าโครงได้

นอกจากนี้ การแสดงภาพสถานะการดำเนินงานที่มีภายในโรงงาน ยังช่วยทำให้สามารถระบุและปรับปรุงกระบวนการคอขวด(การหยุดชะงักในการผลิต)ได้ นอกจากนี้ยังช่วยสนับสนุนการตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูลเชิงวัตถุได้อีกด้วย

ข้อเสียของกล้อง AI

โดยทั่วไปแล้วกล้อง AI มีข้อดีหลายประการ แต่กระนั้นก็ยังมีข้อเสียอยู่บ้างเช่นกัน เช่น

ต้นทุนการดำเนินงานที่เกิดขึ้น

ข้อเสียอย่างหนึ่งในการใช้กล้อง AI คือ บริการต่างๆจำนวนมากต้องเสียค่าธรรมเนียมการใช้งานรายเดือนและค่าธรรมเนียมสำหรับการทำธุรกรรมนั้นๆ ซึ่งนั่นหมายความว่า จะเป็นการเกิดค่าใช้จ่ายถาวรขึ้น นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องคำนึงไว้ด้วยว่า การใช้งานกล้องAIแบบเอดจ์ นั้น จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์

อาจจำเป็นต้องตรวจระบบการเชื่อมต่อของสายสื่อสารใหม่

ระบบคลาวด์นั้น จำเป็นต้องมีการถ่ายโอนข้อมูลอย่างต่อเนื่อง จึงมีความเสี่ยงที่ปริมาณการสื่อสารที่เพิ่มขึ้นจะทำให้สายสื่อสารทำงานหนักมากเกินไปเพื่อการรองรับ หากความเร็วในการสื่อสารที่มีอยู่ลดลง อาจส่งผลทำให้เกิดข้อผิดพลาดที่ไม่คาดคิดขึ้นในกรณีที่สายการสื่อสารไม่สามารถรองรับการทำงานที่หนักเกินไปหรืออ่อนแอ

ดังนี้แล้ว จึงจำเป็นจะต้องวัดความเร็วในการสื่อสารของสายเครือข่ายที่มีและตรวจสอบล่วงหน้าด้วยว่า สามารถรองรับการสื่อสารข้อมูลของกล้อง AI ได้หรือไม่

กรณีที่จำเป็นต้องคำนึงถึงการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

ควรใช้ความระมัดระวังในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในพื้นที่ที่มีการสัญจรของผู้คนที่เดินผ่านไปมาจำนวนมาก เช่น ภายในร้านค้าหรือในทางเดิน เมื่อการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัย อาจไม่จำเป็นต้องแจ้งวัตถุประสงค์การใช้งานให้ผู้ดูแลระบบทราบ

แต่อย่างไรก็ตาม หากระบบที่ติดตั้งนั้นมีฟังก์ชันที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลได้ เช่น การจดจำใบหน้า รวมไปถึงหากสถานที่ของบุคคลที่สามรวมอยู่ในภาพข้อมูลที่ได้มีการบันทึก จำเป็นจะต้องใช้ความพยายามในที่จะการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยการหามาตรการมาปรับใช้ในกรณีแบบนี้ เช่น การตั้งค่าหน้ากากเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว

สถานการณ์ในการนำกล้อง AI มาใช้งาน ตามประเภทของธุรกิจ

กล้อง AI สามารถนำมาใช้งานได้ในหลากหลายรูปแบบธุรกิจ เช่น ร้านค้าปลีก สำนักงาน สถานพยาบาลและสวัสดิการ และลานจอดรถ

การตรวจจับความแออัดภายในร้านค้าปลีกแบบเรียลไทม์

ด้วยการติดตั้งกล้อง AI ไว้ในร้านค้า จะช่วยให้สามารถเข้าใจสถานการณ์ที่ผสมปะปนกันในร้านได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถระบุสถานการณ์ประเมินความแออัดที่ด้านหน้าเครื่องคิดเงินในร้านได้ทันที ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการจัดสรรและบริหารพนักงานและแคชเชียร์

นอกจากนี้ ฟังก์ชันการนับคน ยังช่วยให้คุณเข้าใจจำนวนลูกค้าที่มาเยือนโดยที่แท้จริงตามฤดูกาลและช่วงเวลาของวัน ซึ่งจะมีประโยชน์ในการปรับกะของพนักงานได้

การจัดการทางเข้า/ออกของสำนักงานโดยใช้การจดจำใบหน้า

โดยการลงทะเบียนใบหน้าของพนักงาน สามารถนำไปใช้เพื่อปลดล็อกประตูอัตโนมัติและประตูรักษาความปลอดภัยได้ ด้วยระบบการจดจำใบหน้า จึงไม่มีความเสี่ยงในการสูญหายของบัตร IC หรือกุญแจทรงกระบอก นอกจากนี้การบันทึกเวลาเข้าและออกจะช่วยให้ตรวจจับการเข้ามา ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากข้อมูลที่บันทึกไว้ได้ง่ายขึ้น

การตรวจจับเมื่อแพทย์/เจ้าหน้าที่สวัสดิการออกไปข้างนอกในเวลากลางคืน

ด้วยการตั้งค่าบรืเวณทางเข้าและทางออกตอนกลางคืนในระบบการตรวจจับพื้นที่ ทำให้สามารถตรวจจับได้โดยอัตโนมัติเมื่อผู้ป่วยในหรือผู้พักอาศัยออกจากอาคารไปในเวลากลางคืน โดยการตรวจจับกิจกรรมที่น่าสงสัยและการตอบสนองอย่างรวดเร็ว สามารถคาดหวังได้ว่าจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันอุบัติเหตุได้ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น

หากผู้อยู่อาศัยให้การอนุญาต ก็จะทำให้เราสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วต่อการหกล้มในห้องส่วนตัวหรือการเปลี่ยนแปลงกะทันหันต่อสุขภาพของผู้พักอาศัยที่อยู่ภายในอาคารได้

บันทึกเวลาการออกจากลานจอดรถ

ด้วยการจดจำยานพาหนะโดยอัตโนมัติด้วยกล้อง AI ในลานจอดรถ ทำให้สามารถบันทึกเวลาเข้าและออกของยานพาหนะที่จอดเป็นเวลานานหรือสร้างความไม่สะดวกและรบกวนต่อผู้อื่นได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ การวิเคราะห์เวลาในการจอดรถ ยังสามารถใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับช่วงเวลาที่มีผู้ใช้บริการอย่างหนาแน่นและเวลาที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์ลูกค้าได้อีกด้วย

วิธีเลือกกล้อง AI

ประเด็นต่อไปนี้จะช่วยทำให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ได้ดียิ่งขึ้น เมื่อต้องเลือกกล้อง AI มาใช้งาน

AI บนคลาวด์ และ AI แบบเอดจ์

ต้องเลือกระหว่าง AIบนคลาวด์ หรือ AI แบบเอดจ์ ตามวัตถุประสงค์ ตัวอย่างเช่น หากคุณให้ความสำคัญกับการใช้งานที่มุ่งเน้นไปเพื่อการตลาด ก็ควรใช้ AI บนคลาวด์ และสำหรับการตรวจจับของมนุษย์ การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ ฟังก์ชั่นการจดจำใบหน้า ฯลฯ นั้นควรใช้กล้อง AI แบบเอดจ์

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสภาพแวดล้อมที่ความรวดเร็วเร่งด่วนเป็นสิ่งที่สำคัญและมุ่งเน้นแล้วนั้น AI แบบเอดจ์ ถือเป็นตัวเลือกที่ชัดเจน

ฟังก์ชั่นการบันทึก

การตรวจสอบฟังก์ชั่นการบันทึกวิดีโอ ก็ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เพราะกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพได้อย่างต่อเนื่องนั้น มีประโยชน์ในการสืบสวนการอาชญากรรมได้ แต่ในส่วนของการตรวจจับบาร์โค้ดหรือการตรวจจับตัวอักขระนั้น ฟังก์ชั่นการบันทึกวิดีโออาจไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่ควรคำนึงซักเท่าไหร่

นอกจากนี้แล้ว ในการบันทึกวิดีโอยังต้องการการใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก ดังนั้นหากคุณไม่ได้จำเป็นต้องบันทึก ก็สามารถช่วยให้ต้นทุนประหยัดลงได้เช่นกัน

จะมีการใช้งานกลางแจ้งหรือไม่?

เมื่อจะใช้กล้อง AI กลางแจ้ง คุณต้องเลือกกล้องที่มีประสิทธิภาพกันน้ำและกันฝุ่นสูงสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง เนื่องจากกล้องเป็นเครื่องมือที่มีความแม่นยำ ดังนั้นกล้องสำหรับใช้ในร่มจึงไม่สามารถทนทานต่อฝนตกหนักหรือพายุไต้ฝุ่นได้ ดังนั้นจึงควรเลือกกล้องที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานกลางแจ้งโดยเฉพาะ

นอกจากนี้ ฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น การมองเห็นตอนกลางคืนและ WDR (ช่วงไดนามิกกว้าง) ยังมีความสำคัญสำหรับการใช้งานกลางแจ้งด้วยเช่นกัน เพราะฟังก์ชันเหล่านี้จะช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการจดจำภาพ แม้ในสภาพแวดล้อมการถ่ายภาพที่จำกัด เช่น ในเวลากลางคืนหรือการย้อนแสง

ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและดำเนินการ

ไม่ใช่แค่ต้นทุนในการติดตั้งกล้อง AIเท่านั้น คุณยังต้องพิจารณาต้นทุนการดำเนินการด้วย เช่น ค่าธรรมเนียมการใช้งานรายเดือนและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม นอกจากนี้ การเลือกระบบที่มีความสามารถในการขยายต่อยอดการใช้งานได้สูง จะช่วยทำให้สามารถจัดการกับการขยายธุรกิจในอนาคตได้ง่ายยิ่งขึ้น

ความสะดวกของการใช้งาน/การดำเนินงาน

ก่อนมีการเริ่มการใช้งานกล้อง AI เป็นความคิดที่ดีที่ควรจะตรวจสอบก่อนว่า ผู้ที่จะรับผิดชอบในส่วนนี้ สามารถใช้งานกล้องได้จริงอย่างคล่องแคล่วแล้วหรือไม่ ควรมีส่วนอินเทอร์เฟซที่ใช้งานได้ง่ายและมีหน้าจอการจัดการที่สามารถทำความเข้าใจได้ทันที

หากเป็นไปได้ ควรที่จะทดสอบบนหน้าจอสาธิตหรือลองใช้งานเวอร์ชันทดลองดูก่อน

มีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้หรือไม่?

เมื่อจับภาพฟุตเทจที่สามารถระบุและแยกแยะบุคคลได้ ถือเป็นการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีเช่นนี้ จะต้องเปิดเผยวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลล่วงหน้า หรือต้องแจ้งบุคคลนั้น หรือต้องประกาศหลังจากได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆทันที

ในทางกลับกัน หากข้อมูล เช่น ข้อมูลคุณลักษณะหรือข้อมูลการเคลื่อนไหวถูกบันทึกในลักษณะที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ ข้อมูลดังกล่าวจะไม่เข้าข่ายถือเป็นหมวดหมู่ของการเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยเหตุนี้ จึงมีกล้อง AI บางตัวที่จะทำการบันทึกข้อมูล หลังจากที่ได้ดำเนินการทิ้งข้อมูลที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลไปแล้ว

ซึ่งวิธีการบันทึกข้อมูลและเก็บรักษาข้อมูล อาจส่งผลในการเกิดการตอบสนองที่จำเป็นแตกต่างกันออกไป ดังนั้น การเลือกใช้กล้อง AI ที่มีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่นั้น จึงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่ง

สรุป

กล้อง AI ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อใช้ในการตรวจจับบุคคลและวัตถุโดยอัตโนมัติ กล้องประเภทนี้สามารถใช้เพื่อการปรับปรุงการรักษาความปลอดภัย การวิเคราะห์และในด้านอื่นๆอีกมากมาย กล้อง AI ที่คุณควรเลือกนั้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาวะเงื่อนไขของการใช้งาน เช่น การใช้งานนอกอาคารหรือกลางแจ้ง การบันทึกฐานข้อมูลของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น ดังนั้นแล้วจึงควรเลือกกล้อง AI ที่เหมาะสมที่สุด โดยอ้างอิงจากตัวอย่างการใช้งานและการนำไปใช้ในการปฏิบัติงานนั้นๆได้จริง

Safie เป็นบริษัทที่ใช้โซลูชันด้วยเทคโนโลยีด้านวิดีโอ เช่น กล้องรักษาความปลอดภัยหรือกล้องวงจรปิด เพื่อช่วยสนับสนุนให้บริษัทต่างๆ แก้ไขปัญหาต่างๆที่กำลังเผชิญอยู่ได้ เรามีประสบการณ์มากมายในการใช้กล้อง AI เพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพทางธุรกิจให้กับบริษัทต่างๆ
หากคุณและองค์กรของคุณกำลังมีข้อกังวลเกี่ยวกับการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ กรุณาติดต่อให้เรา Safie ได้ช่วยสนับสนุนองค์กรของท่าน